วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เทคโนโลยีใหม่ โดยนักศึกษา ชอ.3/1



เทคโนโลยีใหม่ โดยนักศึกษา ชอ.3/1(ร่วมส่งงานเพื่อแสดงสุดยอดเทคโนโลยีสมัยใหม่)
ขอบคุณผู้ผลิด ข้อมูล จากเว็บไชด์ต่างๆ**********เป็นการศึกษาไม่ได้หวังผลกำไร หรือโฆษณษ************

21 ความคิดเห็น:

  1. ไมโครซอฟท์ส่งตรง Office for Mac 2011 เวอร์ชันใหม่ พร้อมประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ออก 2 รุ่นเจาะกลุ่มลูกค้า Home and Student Edition ราคาเริ่มต้น 4,790 บาท และ Home and Business Edition เริ่มต้น 7,790 บาท...

    บริษัท ไมโครซอฟท์ เปิดตัวโปรแกรมไมโครซอฟท์ออฟฟิศสำหรับคอมพิวเตอร์แมค 2011 หรือ Microsoft Office for Mac 2011 จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ Office for Mac Home and Student 2011 และ Office for Mac Home and Business 2011 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั้งด้านแอพพลิเคชั่นและฟีเจอร์ ทำให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์แมคอินทอชได้ใช้งานเครื่องมือเอกสารระดับมืออาชีพ และสามารถเปิดใช้งานแม้ในแพล็ตฟอร์มที่ต่างกันได้

    นายชัชวาล จิตติกุลดิลก ผู้จัดการฝ่าย Retail Sales & Marketing บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า โปรแกรมออฟฟิศสำหรับแมคพัฒนาขึ้นสำหรับช่วยสร้างงานเอกสารที่มีรูปแบบสวยงาม และสามารถใช้งานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนการเปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่น ก็เพื่อให้ผู้ใช้ได้เลือกตามความต้องการใช้งาน สำหรับการออกผลิตภัณฑ์ออฟฟิศสำหรับแมคในครั้งนี้ บริษัทฯ ต้องการนำเสนอชุดเครื่องมือและฟีเจอร์ที่มีประสิทธิภาพแก่ผู้ใช้งานที่คุ้นเคยกับไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ อาทิ Word for Mac , PowerPoint for Mac , Excel for Mac , Messenger for Mac และ Outlook for Mac ซึ่งสามารถทำงานและแสดงผลได้อย่างดีบนเครื่องคอมพิวเตอร์แมค






    จากผลการวิจัยของจีเอฟเค (GFK Group) ระบุว่า คีย์บอร์ดไมโครซอฟท์ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในตลาด ด้วยส่วนแบ่งตลาด 33.5% ตั้งแต่ต้นปี 2553 ถึงปัจจุบัน จากความสำเร็จดังกล่าว บริษัทฯ​ ยังคงมุ่งมั่นก้าวสู่อันดับผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ส่วนอื่นๆ ด้วย ดังนั้น บริษัทฯ จึงต้องส่งเสริมผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์แมคในประเทศไทยให้ทดลองใช้ชุดโปรแกรมไมโครซอฟท์ออฟฟิศสำหรับแมค 2011 เพื่อสร้างประโยชน์ในการทำงานร่วมกัน

    สำหรับรายละเอียดผลิตภัณฑ์กลุ่ม Home and Student Edition ประกอบด้วย Word for Mac , PowerPoint for Mac , Excel for Mac และ Messenger for Mac โดยวางจำหน่ายในราคา 4,790 บาท (1 ไลเซนส์) และ 5,790 บาท (3 ไลเซนส์แบบ Family Pack) ส่วน Home and Business Edition ประกอบด้วย Word for Mac , PowerPoint for Mac , Excel for Mac , Messenger for Mac และ Outlook for Mac ในราคา 7,790 บาท (1 ไลเซนส์) และ 9,790 บาท (2 ไลเซนส์แบบ multipack).


    ข่าวจาก : ไทยรัฐ
    วันที่ : 11 พฤศจิกายน 2553 เวลา 17:44 น.

    ตอบลบ
  2. ไมโครซอฟท์ส่งตรง Office for Mac 2011 เวอร์ชันใหม่ พร้อมประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ออก 2 รุ่นเจาะกลุ่มลูกค้า Home and Student Edition ราคาเริ่มต้น 4,790 บาท และ Home and Business Edition เริ่มต้น 7,790 บาท...

    บริษัท ไมโครซอฟท์ เปิดตัวโปรแกรมไมโครซอฟท์ออฟฟิศสำหรับคอมพิวเตอร์แมค 2011 หรือ Microsoft Office for Mac 2011 จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ Office for Mac Home and Student 2011 และ Office for Mac Home and Business 2011 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั้งด้านแอพพลิเคชั่นและฟีเจอร์ ทำให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์แมคอินทอชได้ใช้งานเครื่องมือเอกสารระดับมืออาชีพ และสามารถเปิดใช้งานแม้ในแพล็ตฟอร์มที่ต่างกันได้

    นายชัชวาล จิตติกุลดิลก ผู้จัดการฝ่าย Retail Sales & Marketing บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า โปรแกรมออฟฟิศสำหรับแมคพัฒนาขึ้นสำหรับช่วยสร้างงานเอกสารที่มีรูปแบบสวยงาม และสามารถใช้งานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนการเปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่น ก็เพื่อให้ผู้ใช้ได้เลือกตามความต้องการใช้งาน สำหรับการออกผลิตภัณฑ์ออฟฟิศสำหรับแมคในครั้งนี้ บริษัทฯ ต้องการนำเสนอชุดเครื่องมือและฟีเจอร์ที่มีประสิทธิภาพแก่ผู้ใช้งานที่คุ้นเคยกับไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ อาทิ Word for Mac , PowerPoint for Mac , Excel for Mac , Messenger for Mac และ Outlook for Mac ซึ่งสามารถทำงานและแสดงผลได้อย่างดีบนเครื่องคอมพิวเตอร์แมค






    จากผลการวิจัยของจีเอฟเค (GFK Group) ระบุว่า คีย์บอร์ดไมโครซอฟท์ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในตลาด ด้วยส่วนแบ่งตลาด 33.5% ตั้งแต่ต้นปี 2553 ถึงปัจจุบัน จากความสำเร็จดังกล่าว บริษัทฯ​ ยังคงมุ่งมั่นก้าวสู่อันดับผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ส่วนอื่นๆ ด้วย ดังนั้น บริษัทฯ จึงต้องส่งเสริมผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์แมคในประเทศไทยให้ทดลองใช้ชุดโปรแกรมไมโครซอฟท์ออฟฟิศสำหรับแมค 2011 เพื่อสร้างประโยชน์ในการทำงานร่วมกัน

    สำหรับรายละเอียดผลิตภัณฑ์กลุ่ม Home and Student Edition ประกอบด้วย Word for Mac , PowerPoint for Mac , Excel for Mac และ Messenger for Mac โดยวางจำหน่ายในราคา 4,790 บาท (1 ไลเซนส์) และ 5,790 บาท (3 ไลเซนส์แบบ Family Pack) ส่วน Home and Business Edition ประกอบด้วย Word for Mac , PowerPoint for Mac , Excel for Mac , Messenger for Mac และ Outlook for Mac ในราคา 7,790 บาท (1 ไลเซนส์) และ 9,790 บาท (2 ไลเซนส์แบบ multipack).


    ข่าวจาก : ไทยรัฐ
    วันที่ : 11 พฤศจิกายน 2553 เวลา 17:44 น.

    นาย กิตติคุณ บุญเสริม ชอ.3/1 เลขที่ 6

    ตอบลบ
  3. 2. Mobile script Concept : แนวคิดหน้าจอระบบสัมผัส ที่สามารถดึงเข้า-ออก
    โดยแนวคิดโทรศัพท์มือ ถือร่วมสมัย เพื่อต้องการความคล่องตัวในการใช้งาน ด้วยหน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 9.5 นิ้วที่สามารถดึงเข้า-ออกจากตัวเครื่องด้านข้างได้ หรือที่เรียกว่า "Script Concept" ซึ่งเหมือนวิธีการส่งสาร จดหมายสมัยโบราณ ที่ส่งเป็นลักษณะม้วนกระดาษ นับว่าเป็นแนวคิดที่ดี ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในสมัยใหม่ได้ดีทีเดียว
    **********ผลงานการออกแบบของ Aleksander Mukomelov************

    นายอิศรา สมบูรณ์
    ชอ.3/1 เลขที่26

    ตอบลบ
  4. บริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือจากฟินแลนด์อย่าง Nokia ได้ทวีตข้อความลงบน Twitter ว่าพวกเขาเตรียมที่จะวางจำหน่ายสมาร์ตโฟน Nokia E7 ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้อย่างแน่นอน แม้จะยังไม่มีการระบุว่าจะวางจำหน่ายในพื้นที่แถบใด ก่อนบ้างก็ตามแต่มีความเป็นไปได้สูงทีเดียวที่จะวางขายในทวีปยุโรปก่อนใคร เพื่อน
    สำหรับ Nokia E7 นั้นนับเป็นสมาร์ตโฟนพี่น้องท้องชนกันกับ N8 ที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดยจะมีรูปลักษณ์ตัวเครื่องแบบอะลูมิเนียมและปฏิบัติการในระบบ Symbian 3 คล้ายๆกันแต่ E7 ได้รับการเพิ่มคีย์บอร์ดแบบ QWERTY เข้ามานั่นเอง


    นายณัฐวุฒิ ใจบาน อิเล็กทรอนิกส์ 3/1 เลขที่ 14
    theongzab@Gmail.com

    ตอบลบ
  5. Projector Cell Phone Concept: แนวคิดมือถือติดโปรเจคเตอร์

    แนวคิดมือถือโทรศัพท์มือถือที่ต้องการเป็นมากกว่ามือถือธรรมดา เป็นแนวคิดสมาร์ทโฟนขนาดบางเฉียบ ติดโปรเจคเตอร์หรือเครื่องฉายภาพ (Projector Concept) ไว้ตรงกลางของตัวเครื่องรอยต่อระหว่างจอแสดง ผลที่สามารถหมุนขึ้นได้กับแผงปุ่มกด ผู้ใช้สามารถส่งภาพในโทรศัพท์ออกไปยังฉากหรือผนังเพื่อรับชมภาพในขนาดใหญ่ ได้

    ผลงานการออกแบบของ Stefano Casanova

    นาย วุฒิชัย จันต๊ะแปง

    ชอ.3/1 เลขที่22

    ตอบลบ
  6. OLED ( Organic Light Emitting Devices ) ทางบริษัท TDK ได้นำเสนอเทคโนโลยี OLED จอแสดงผลรุ่นใหม่ที่มีคุณสมบัติคล้ายฟิล์ม คือมีความโปร่งใสจนสามารถมองเห็นทะลุได้ และจะเปล่งแสงเมื่อได้รับ พลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ยังสามารถแสดงภาพในขณะที่จอถูกดัดให้โค้งงอได้อีกด้วย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของเทคโนโลยีจอแสดงผลชนิดนี้ที่เหนือกว่าจอที่ทำจาก แก้วที่แตกร้าวได้ง่าย

    นายก้องไกล ใจคนิง
    ชอ.3/1 เลขที่5

    ตอบลบ
  7. Motionflow 200Hz

    ปกติภาพเคลื่อนไหวเร็วๆ ที่แสดงผลในจอ LCD จะไม่สมูธนักก็เนื่องจากการแสดงภาพในแต่ละเฟรมไม่ต่อเนื่องกันนัก ซึ่งระบบที่มาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ที่เรารู้จักกันดีก็จะเป็น Motionflow ที่มาช่วยสร้างเฟรมในภาพเคลื่อนไหวเร็วๆ ให้เพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ ทำให้เห็นภาพที่สมูธขึ้นมีรายละเอียดต่อเนื่องชัดเจนขึ้น โดยทั่วไป Motionflow จะประมาณ 100Hz แต่สำหรับ NX800 นี้จะเป็น Motionflow 200Hz ซึ่งสร้างภาพต่อเฟรมได้มากกว่า Motionflow 100Hz สองเท่า ทำให้การเล่นเกมที่มีภาพเคลื่อนไหวเร็วๆ ดูสมูธมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวเลยครับ

    เมื่อนักเล่นเกมมองภาพที่แพนกล้องไวๆ หรือมีการเคลื่อนไหวไวๆ นานๆ ก็อาจจะทำให้ปวดหัว ปวดตา หรือมีปัญหากับการมองเห็นในระยะยาวได้ ถ้าทีวีมีภาพที่สมูธจาก Motionflow 200Hz ของ NX800 นี้ก็จะทำให้ดีต่อสุขภาพตา ไม่เกิดอาการล้าของสายตา ไม่เว้นแม้แต่คนดูในครอบครัวที่มักจะนั่งเชียร์นั่งลุ้นไปกับคนเล่นด้วยครับ

    ชัยวุฒิ กันอินทร์ ปวช.3/1 เลขที่10

    ตอบลบ
  8. 5.Pen Cell Phone Concept: แนวคิด โทรศัพท์มือถือรูปทรงปากกา
    แนวคิดโทรศัพท์มือถือรูปทรงปากกา ความยาว 8.7 นิ้ว ปุ่มกดตัวเลข
    1-9 เรียงจากหัวปากกาไปด้านบน ถัดไปเป็นจอแสดงผล รองรับ
    การ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD ภายในประกอบด้วยฟังก์ชั่นพื้น
    ฐานเหมือนโทรศัพท์ทั่วไป เพียงแต่ว่าง่ายต่อการพกพาสะดวกกว่า


    กิติพงศ์ บุราณรูป ชอ 3/1 เลขที่8

    ตอบลบ
  9. สำหรับ CPU Core i7 ที่เปิดตัวในงานนี้ ทางอินเทล พาดหัวใว้ตัวเบ้อเริ่มว่า FASTEST PROCESSOR ON THE PLANET (เร็วที่สุดบนโลกนี้)
    เปิดตัวด้วยกันสามรุ่น คือ
    Core i7 965 Extreme Edition 3.2GHz
    Core i7 940 2.93 GHz
    Core i7 920 2.6 GHz

    ส่วนตัวก็ไม่แน่ใจนัก ว่า "เร็วที่สุดบนโลกนี้" มันจะจริงหรือ... แต่ทางอินเทล ย้ำหนักแน่นบนเวทีเลยว่า เป็น CPU ที่เร็วที่สุดในโลก ถ้าเทียบกันเดี่ยวๆ ไม่ว่าจะเป็น รุ่นสูงสุดของ Desktop หรือสำหรับ workstation และ Server อย่าง Xeon พร้อมทั้งโชว์ผล benchmark (ทาง FuKDuK เราก็ได้รับเครื่องมาทดสอบด้วย) นอกจากประเด็นที่ว่า มันเร็วแล้ว เรามาดูกันต่อที่ เทคโนโลยี ต้นเหตุแห่งความเร็วกัน
    เริ่มด้วย QuickPath Interconnect ที่เป็นตัวเชื่อมระหว่าง CPU กับหน่วยความจำ ที่จะทำหน้าที่แทน FSB อันส่งผลให้อัตราการส่งผ่านข้อมูลระหว่าง CPU กับหน่วยความจำสูงขึ้นอย่างมาก รวมถึง การใช้หน่วยความจำจากเดิม Dual Channel เป็น Tripple Channel
    Turbo Boost ฟังจากที่อินเทลบรรยาย ได้ความว่า เป็นการนำงานที่กระจายไปทำงานหลายๆคอร์พร้อมกันได้ไม่ดี มารวมกันทำงานที่คอร์เดียว โดยนำพลังที่ลดลงจากคอร์อื่นมาเพิ่ม ฟังดูอาจจะเข้าใจยาก ผมก็มาเข้าใจแจ่มแจ้งตอนทดลองของจริง ...อ้อ ที่แท้ มันคือการ overclock แบบ dynamic ซึ่ง ระบบจะเลือกการเพิ่มความเร็วให้ สามารถตั้งค่าได้เล็กน้อยใน Bios เช่น อัตราตัวคูณที่จะเพิ่มได้สูงสุด(อันนี้ทดลองแล้ว ปรับมากไป มีค้าง = =)
    และสุดท้าย Hyper-threading นั้นได้กลับมาแล้ว หลังจากห่างหายไปนาน ตั้งแต่ยุค Pentium 4 นั่นคือการทำให้ 1 core สามารถทำงานได้สองงานพร้อมๆกัน ผลคือ ระบบปฏิบัติการ จะเป็นว่าเป็น 8 core (อลังการ)

    Core i7 เปิดตัวพร้อมกับ Chipset ใหม่ นั่นคือ X58 ซึ่งมีบอร์ดเข้ามาจำหน่่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งของ Intel Gigabyte(เพื่อนผมชอบเรียกว่า กิ๊กกะบ๊วย) Asus และ MSI ดูจากในสไลด์ในงาน มี Foxconn ด้วย แต่เสียดายที่ไม่มีผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทย

    ท้ายงานมีการสัมภาษณ์ ผู้ร่วมทดสอบประสิทธิภาพ CPU Core i7 ซึ่งก็คือ Anya Animation และ FuKDuK.tv ถึงประสิทธิภาพ และผลต่อการลดระยะเวลาการทำงาน

    เรื่องราคาของ Core i7 นั้นทำตลาดในส่วนของตลาดระดับบน ราคาเริ่มต้น อยู่ที่หมื่นบาทต้นๆ แต่ราคาบอร์ด และหน่วยความจำ ถือว่าัยังสูงอยู่เมื่อเทียบกับ Core 2 อย่างไรก็ดี อินเทลแจ้งว่า CPU รุ่นอื่นๆ ที่ใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับ Core i7 จะทะยอยออกจำหน่ายในช่วงต้นปีหน้า รวมถึง Xeon รุ่นใหม่ด้วย

    ทิ้งท้ายเกร็ดเล็กๆน้อยๆ สำหรับ CPU Core i7
    - Core i7 ผลิตจากประเทศ คอสตาริกา (ตอนแรกนึกว่าแถวๆประเทศเพื่อนบ้าน)
    - พริตตี้ในงานเปิดตัวของประเทศไทย ไม่ค่อยน่ารักเลย

    นาย บุญโฮม ทิสนเท่ห์
    ชอ. 3/1 เลขที่ 17

    ตอบลบ
  10. Kingston ได้เปิดตัว DataTraveler 310 USB Flash Drive ที่จะมาพร้อมกับขนาดที่สูงถึง 256GB โดยจะมีความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 25MB/วินาที เเล้วมีความเร็วการเขียนอยู่ที่ 12MB/วินาที ส่้วนเรื่องราคาของ Kingston DataTraveler 310 USB Flash Drive นั้นจะมีราคาที่สูงถึง $1108 (หรือประมาณ 37000 บาท) เลยทีเดียว


    นาย ทีปรกร สุลินทอง ชอ.3/1 เลขที่15

    ตอบลบ
  11. กล้องปากกา (Camera-Pen) รุ่นล่าสุด....ขนาด 4Gb

    รายละเอียด: เป็นกล้องวีดีโอถ่ายภาพเคลื่อนไหว ที่ถูกออกแบบให้ซ่อนอยู่ในตัวปากกา
    บันทึกภาพสี แบบเคลื่อนไหวและเสียงได้ชัดเจน แล้วจะทำการ save ลงในตัวปากกา ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม
    เหมาะในการเก็บการพูดคุยระหว่างการสนทนาต่างๆ เจรจาต่อรอง ระหว่างบุคคล งานนักสืบ เพื่อเป็นหลักฐาน

    -บันทึกแล้วเชื่อมต่อกับ computer ผ่าน USB ดูได้ทันที่
    -บันทึกภาพสี แบบเคลื่อนไหวและเสียงได้ชัดเจน
    -เลนส์รุ่นใหม่ให้ความคมชัดกว่าเดิมกว่าที่วางขายตามท้องตลาด
    -น้ำหนักเพียง 30g , ขนาด 150mm x 15mm x 15mm
    -สามารถบันทึกใส่ VCD , DVD หรือ FLASH DRIVE อื่นๆ ได้ เพื่อเก็บเป็นหลักฐาน
    -สามารถใช้แทน Thum Drive ในการบันทึกข้อมูลเช่น เพลง mp3 ภาพ วีดีโอ และข้อมูลเอกสารต่างๆ
    -Built in Lithium-ion Rechargeable Battery ชาร์จไฟทันที เมื่อเสียบ USB เข้ากับ Computer
    Battery คุณภาพสูง อายุการทำงาน ( 400-500 ครั้ง)
    -สะดวกไม่ต้องพกพาเครื่องรับ เหมือนกล้องรุ่นเก่า เพราะบันทึกได้ในตัวเอง ใช้งานง่ายเพียงกดเพียงครั้งเดียวสำหรับการบันทึก

    นายณรงค์ฤทธิ์ พอกอง ชอ.3/1 เลขที่14

    ตอบลบ
  12. พิมพา ปวงคำ
    แผนกช่างอิเล็กทรอนิกส์ 3/1
    Creative เปิดตัว "Ziio" Android แท็บเล็ต จอ 7 และ 10 นิ้ว
    Creative เปิดตัว Android แท็บเล็ต ชื่อ "Ziio" มีรุ่นจอ 7 นิ้ว และ 10 นิ้ว รายละเอียดมีดังนี้

    รุ่นจอ 7 นิ้ว
    • จอแบบ resistive ความละเอียดที่ 480 x 800 พิกเซล พร้อมกล้องด้านหน้า
    • ตัวเครื่องสีขาวหนา 13.7 มม. น้ำหนักรวม 400 กรัม
    • ซีพียูจาก ZiiLabs รุ่น ZMS-08
    • รองรับ Wi-Fi 802.11 b/g, บลูทูธ 2.1
    • มี mini-USB, HD output, accelerometer
    • รัน Android 2.1
    • มาพร้อมเทคโนโลยี Pure Audio
    • สนนราคา 229 ยูโร (ราว 9,600 บาท) สำหรับรุ่นหน่วยความจำภายใน 8 กิกะไบต์ และ 259 ยูโร (ราว 11,000 บาท) สำหรับรุ่นหน่วยความจำภายใน 16 กิกะไบต์
    รุ่นจอ 10 นิ้ว
    • แก้ไข (เดิมเว็บที่มาลงผิด) จอแบบ resistive ความละเอียดที่ 1024 x 600 พิกเซล
    • ตัวเครื่องสีดำหนา 13.7 มม. น้ำหนักรวม 650 กรัม
    • สเปคที่เหลือเหมือนกับรุ่นจอ 7 นิ้ว
    • แก้ไข สนนราคา 289 ยูโร (ราว 12,000 บาท) สำหรับรุ่นหน่วยความจำภายใน 8 กิกะไบต์ และ 319 ยูโร (ราว 13,300 บาท) สำหรับรุ่นหน่วยความจำภายใน 16 กิกะไบต์
    Creative จะวางขายแท็บเล็ต Ziio ในเดือนธันวาคมนี้ หน้าตาจะเป็นอย่างไรดูได้ที่ท้ายข่าว
    เปิดตัวช้าไปไหม? แล้วยังจอแบบ resistive อีกเนี่ยนะ??

    ตอบลบ
  13. ฟูจิตสึส่งไลฟ์บุ๊ก MH380 มินิโน้ตบุ๊ก Made in Japan ลงตลาด เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วยดีไซน์และฟังก์ชั่นบันเทิง-การทำงานครบครัน

    ฟูจิตสึเปิดตัวมินิโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ล่าสุด “Fujitsu LifeBook MH380” ผลิตตรงจากประเทศญี่ปุ่นลุยตลาดไทย ตั้งเป้าเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบความบันเทิง ผสมผสานดีไซน์ที่ลงตัวกับสไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี จากการออกแบบโน้ตบุ๊กที่ไร้รอยต่อ พร้อมตอบสนองทุกการใช้งานที่เหนือระดับ ด้วยหน้าจอแบบ HD back-light LED ขนาด 10.1 นิ้ว ซึ่งออกแบบมาตามหลักสรีระศาสตร์ พร้อมประสิทธิภาพที่ก้าวล้ำไปอีกระดับกับ Wireless LAN 802.11b/g/n, ThinkFree Mobile Office Suite และการแชร์แอพพลิเคชั่นด้วย USB

    นาย ไชยวัฒน์ สิทธิเลิศ เลขที่ 12 ชอ.3/1

    ตอบลบ
  14. The MiLi Pro iPhone / iPod Video Projector - MiLi Pro เมื่อสวมเข้ากับไอพอดทัชหรือไอโฟน (iPhone 3GS, 3G, 2G) แล้วจะกลายเป็นโปรเจคเตอร์ขนาดย่อม โดย MiLi Pro มีพื้นฐานจากเทคโนโลยี LCOS (LED driven micro projector) มีความละเอียดอยู่ที่ 640 * 480 พิกเซล มีลำโพงในตัว รองรับการต่อเชื่อม VGA, RCA และยูเอสบี เวลาชาร์จไฟสามารถชาร์จไอพอดทัชหรือไอโฟนกับ MiLi Pro ได้พร้อมกัน

    นาย วีรพันธ์ เถาวัลย์
    เลขที่ 19 ชอใ3/1

    ตอบลบ
  15. นำโด่ง iPad ทำส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตทั่วโลกได้ 95%

    --------------------------------------------------------------------------------



    ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา iPad สามารถทำส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตแซงหน้าคู่แข่งอย่างหลุ ดลอย โดยรายงานจาก Strategy Analytics กล่าวว่า iPad มีส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตถึง 95% เนื่องจากยอดขายที่ดีมาก ตลอดจนได้รับคำวิจารณ์ที่ดี

    ทว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไป iPad คงต้องเริ่มเผชิญหน้ากับคู่แข่งรายสำคัญต่างๆ เช่น Samsung Galaxy Tab ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งในตอนนี้ก็ได้เริ่มมีรีวิวออกมาตามเว็บนอกบ้างแล ้ว


    อย่างไรก็ตาม เราคงไม่สามารถปฏิเสธจุดแข็งของ Apple ไปได้ เป็นต้นว่าภาพลักษณ์ของ
    แบรนด์ที่เข้มแข็งซึ่งยากที่คู่แข่งจะโค่นลง ถึงแม้สินค้าของตนจะมีคุณสมบัติต่างๆ มากกว่า ซึ่ง Apple อาจใช้จุดแข็งตรงนี้ในการปล่อยแท็บเล็ตออกมาอีกตัวใน ช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า เพื่อเป็นการล้ำหน้าคู่แข่งอีกครั้ง


    iPad ได้รับการวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่าน มา และสามารถทำยอดขายได้ 2 ล้านเครื่องทั่วโลกภายในระยะเวลา 2 เดือน และเมื่อเดือนที่แล้ว Apple ได้ประกาศว่าไตรมาสที่ผ่านมาทางบริษัทได้ขาย iPad ไปแล้วกว่า 4.19 ล้านเครื่องทั่วโลก


    นาย ชาติชาย กลั่นวารี
    เลขที่ 11 ชอ.3/1

    ตอบลบ
  16. Toshiba ลูบคม MacBook ส่ง SSD วางตลาดแล้ว

    --------------------------------------------------------------------------------




    นอกเหนือจากเรื่องขนาดบอดี้เครื่องที่เรียกได้ว่าเล็ กโคตรๆแล้ว อีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญที่เป็นที่เชิดหน้าชูตาสำหรับ เครื่อง MacBook Air รุ่นใหม่นั้นก็คือระบบจัดเก็บข้อมูลแบบใหม่ที่ใช้งาน แฟลชเมมโมรี่ SSD ขนาดบางเฉียบแต่ทำงานได้อย่างรวดเร็วสำหรับใช้งานเฉพ าะในโน้ตบุ๊คจากค่าย Apple เท่านั้น เรียกว่าเอ็กซคลูซีฟสำหรับสาวก Mac ทั้งหลายว่ากันอย่างนั้นเลย

    ทว่าล่าสุดบริษัท Toshiba ก็เตรียมทำให้สาวก Apple ทั้งหลายต้องยวนหัวใจกันอีกครั้งหลังเปิดตัว SSD รุ่นใหม่แบบเดียวกันกับในเครื่อง MacBook Air ออกมาขายในตลาดโดยทั่วกันแล้วซึ่งเจ้า SSD ที่มีชื่อรุ่นอย่างเท่ว่า Toshiba Blade X-gale นี้จะมีให้เลือกใช้งานทั้งในรุ่น 64GB, 128GB และ 256GB เหมือนกันแบบเป๊ะๆ

    สำหรับจุดเด่นของ SSD ตัวนี้น่าจะอยู่ในส่วนของการโอน ถ่ายข้อมูลซึ่งสามารถทำได้อย่างรวดเร็วถึง 220MB ต่อวินาทีสำหรับการอ่านข้อมูล ขณะที่การเขียนข้อมูลเองก็ยังแรงดีไม่มีตกที่ระดับ 180MB ต่อวินาทีทีเดียว

    งานนี้เชื่อได้เลยว่าอีกหน่อยเราคงได้เห็นโน้ตบุ๊คหร ือเน็ตบุ๊คที่ใช้งาน SSD ของ Toshiba ที่ว่ามานี้อย่างแน่นอนในอนาคต ส่วนราคาไม่ต้องพูดถึงเพราะยังไงก็ต้องถูกกว่าเครื่อ ง MacBook ของตา Jobs แหงมๆ


    นาย กรกช ก่อสร้าง
    เลขที่ 4 ชอ.3/1

    ตอบลบ
  17. Dell Streak ใหม่ลดไซส์เหลือ 5 นิ้ว?
    Dell Streak ยังเพิ่งจะออกวางขายได้ไม่ทันไร ทางด้านของ Dell ก็เตรียมที่จะเดินหน้าพัฒนาแทบเลตโฟน Streak รุ่นต่อไปกันแล้ว



    --------------------------------------------------------------------------------



    Dell Streak ยังเพิ่งจะออกวางขายได้ไม่ทันไร ทางด้านของ Dell ก็เตรียมที่จะเดินหน้าพัฒนาแทบเลตโฟน Streak รุ่นต่อไปกันแล้ว ซึ่งล่าสุดมีข่าวหลุดออกมาจากภายในบริษัทของพวกเขาว่าเจ้ารุ่นที่ 2 ที่ลือกันนี้จะใช้ชื่อโค้ดเนมสุดเท่ว่า Opus One ซึ่งจะมาพร้อมขนาดหน้าจอเล็กสุดๆเพียง 5 นิ้วเท่านั้นแต่สามารถรองรับระดับความละเอียดสูงสุดระดับ HD ได้ถึง 1280*800 พิกเซลเลยทีเดียว

    นอกจากนี้เพื่อเอาใจคนที่ชอบความแรงในการประมวลผลตัวเครื่องก็มีความเป็นไปได้สูงที่ Dell จะหันไปใช้งานซีพียูชิปแบบ Dual-Core ความเร็ว 1.2 GHz ซึ่งก็ไม่น่าจะพลิกโผว่า Snapdragon CPU จะเป็นทางเลือกให้กับ Streak รุ่นใหม่ที่มีความเร็วในระดับเดียวกับที่ต้องการนั่นเอง

    สำหรับ Opus One นั้นจะยังไม่วางจำหน่ายจริงจนกว่าเดือนพฤษภาคมปีหน้าโน่นเลยเพื่อให้ Dell Streak รุ่นแรกที่ออกวางจำหน่ายได้มีเวลาหายใจหายคอกันบ้าง ซึ่งกว่าจะถึงเวลานั้น Dell ก็อาจจะอัพเกรดเฟิร์มแวร์ Android ในตัวเครื่องให้เป็นเวอร์ชัน Honeycomb หรือ Ice Cream อะไรก็ว่ากันต่อไปในอนาคต
    นาย อนุชา ปาเปาอ้าย
    เลขที่ 24 ชอ.3/1

    ตอบลบ
  18. อัสซุสผู้นำอันดับหนึ่งมาเธอร์บอร์ดระดับโลก เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด “Dual Intelligent Processors” รายแรกและรายเดียวในโลก ที่ผสานโปรเซสเซอร์คู่อัจฉริยะ TurboV Processing Unit (TPU) และ Energy Processing Unit (EPU) ความสมบูรณ์แบบด้านการโอเวอร์คล๊อกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ ควบคู่ไปกับการประหยัดพลังงานอย่างลงตัว

    TurboV Processing Unit (TPU) ช่วยในการโอเวอร์คล๊อกโดดเด่นด้วยหน่วยประมวลผลประสิทธิภาพสูง สามารถเร่งประสิทธิภาพพร้อมรักษาความเสถียรของระบบ อีกทั้งช่วยลดภาระการทำงานให้กับซีพียู พร้อมความสามารถพิเศษในการปรับระบบอัตโนมัติเพื่อเร่งประสิทธิภาพให้สูงขึ้นได้เฉลี่ยถึง 37%

    Energy Processing Unit (EPU) เทคโนโลยีส่วนที่สองทำหน้าที่ประสานกัน เพื่อตรวจสอบและปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสมกับรูปแบบการทำงาน ซึ่งสามารถช่วยลดการใช้พลังงานได้มากสูงสุดเฉลี่ยถึง 80% เมื่อเทียบกับเมนบอร์ดทั่วไปในท้องตลาด

    นายกิตติพงษ์ วงศ์วุฒิ
    ชอ.3/1 เลขที่7

    ตอบลบ
  19. :: LG เผยโฉมจอ LCD Bezel บางที่สุดในโลก! ::



    ยอดบริษัทผู้ผลิตจอระดับยักษ์ใหญ่ในแดนโสมอย่าง LG Display ได้ออกโรงประกาศว่าพวกเขาสามารถพัฒนาหน้าจอ LCD แบบกรอบต่อหรือ Bezel ขนาดบางที่สุดในโลกได้สำเร็จเป็นเจ้าแรก

    โดยเจ้าหน้าจอขนาด 37 นิ้วที่เห็นอยู่ในภาพนี้จะถูกนำมาประกอบกันเข้าเป็นหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ซึ่งมีช่องว่างระหว่างแต่ละกรอบภาพเพียง 4 มม. (0.16 นิ้ว) และจะช่วยให้คุณสามารถจัดแต่งจอเหล่านี้วางไว้ในที่แคบๆได้อย่างไม่ยากเย็น

    สำหรับจอขนาดยักษ์นี้จะถูกจัดวางแบบ 3*3 ด้วยขนาดโดยรวมที่ 111 นิ้วเพื่อนำไปเปิดตัวแสดงในงาน FPD International Japan 2010 ซึ่งทางบริษัท LG เองมองภาพในอนาคตของหน้าจอ Bezel ตัวนี้ไว้สำหรับธุรกิจที่ต้องใช้งานโปรโมตต่างๆในที่สาธารณะไม่ว่าจะเป็นการ โฆษณาแบบดิจิตอล, โลโก้ห้างร้านหรือแม้กระทั่งป้ายประกาศต่างๆ


    นายหฤษฎ์ เมืองแก่น
    ชอ.3/1 เลขที่ 22

    ตอบลบ
  20. Acer รุ่นใหม่ จอ 13.3″ บางเฉียบ


    Acer ผู้ผลิตโน๊ตบุ๊ค ที่เป็นที่นิยมของผู้ใช้ในประเทศไทย ได้เปิดตัวโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ Acer Aspire 3935 ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ที่มีขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้วรุ่นแรกของผู้ผลิตรายนี้

    Acer Aspire 3935 มีขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ที่ความละเอียด 1366 x 768 pixel ซึ่งมีอัตราส่วน 16:9 นอกจากนั้น มีน้ำหนักเพียง 1.9 กิโลกรัม และมีความหนาเพียง 1 นิ้วเท่านั้น

    Acer Aspire 3935 เลือกใช้อุปกรณ์ภายในจากแพลทฟอร์ม Centrino 2 อันประกอบไปด้วย หน่วยประมวลผลกลาง Intel Core 2 Duo พร้อมด้วยชิปเซต Intel PM45 Express ประกอบกับระบบเน็ตเวิร์คไร้สายของ Intel โดยมีหน่วยความจำแบบ DDR3 สูงสุดถึง 4GB และใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก Intel GMA 4500MHD on board

    ในประเทศไทยตอนนี้ Aspire 3935-744G25Mn/X163 กำลังจะลงมาสู่ตลาดที่ราคา 39,900 โดยใช้ Intel Core 2 duo P7450, Ram DDR3 4GB, Graphic GMA 4500MHD, HDD 250GB, Intel WiFi 5300

    นายจิรายุ หน่อท้าว
    ชอ.3/1 เลขที่ 9

    ตอบลบ
  21. 4G คือ Forth Generation ซึ่งในบ้านเรายังไม่มีให้เห็นกัน เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีสื่อสารในยุค 4G เรื่องความเร็วนั้นเหนือกว่า 3G มาก คือทำความเร็วในการสื่อสารได้ถึงระดับ 20-40 Mbps เมื่อเทียบกับความเร็วที่ได้จาก 3G นั้นคนละเรื่องกันเลย ที่ญี่ปุ่นนั้นเครือข่ายโทรศัพท์ที่ใช้เทคโนโลยี 4G สามารถให้บริการรับชมรายการโทรทัศน์ผ่านมือถือได้แล้ว หรือจะโหลดตัวอย่างภาพยนตร์มาชมบนโทรศัพท์มือถือก็มีให้เห็นเช่นกัน ทำไมญี่ปุ่นถึงรีบกระโดดไปสู่ยุค 4G กันเร็วเหลือเกิน คำตอบง่าย ๆ ก็คือ “ดิจิตอลคอนเทนต์” เป็นตัวผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นนั่นเอง เมื่อผู้ให้บริการหลายหลายรูปแบบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจำเป็นต้องอาศัยเครือข่ายที่มีความเร็วสูง สามารถรับส่งข้อมูลได้ในปริมาณมาก ๆ ดังนั้น การผลักดันตัวเองให้เข้าสู่ยุค 4G ที่ใช้เทคโนโลยีที่เหนือกว่า 3G ก่อนคู่แข่ง น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด ความโดดเด่นของ 4G คือ ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนเครือข่ายที่กินพื้นที่กว้างก็ได้หรือจะทำเป็นเครือข่ายขนาดย่อม ๆ แบบ WLAN ได้อีกด้วย นั่นจึงทำให้หลายคนมองว่า 4G จะมาเบียดเทคโนโลยีของ Wi-Fi หรือไม่ เพราะสามารถใช้งานได้ทั้งสองแบบ

    นายอภิสิทธิ์ เทศสิงห์
    ชอ.3/1 เลขที่25

    ตอบลบ